Single-Malts ( ซิงเกิลมอลต์ )

1. เหล้า Single-Malts ( ซิงเกิลมอลต์ ) คืออะไร

เหล้าซิงเกิลมอลต์ คือ วิสกี้ที่ผลิตขึ้นจากโรงกลั่นเดี่ยวที่ใช้เพียงข้าวบาเลย์หมัก น้ำ และยีสต์ในการผลิต ซิงเกิ้ลมอลต์วิสกี้แบบดั้งเดิมผลิตขึ้นในภูมิภาคห้าเขตด้วยกัน ได้แก่ โลว์แลนด์ ไฮย์แลนด์ สเปย์ไซด์ ไอร์แลนด์ และแคมเบลท์ทาวน์ ภูมิภาคที่แตกต่างกันจะมีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน อาทิเช่นรสผลไม้ ความสด กลิ่นมอลต์ และ กลิ่นบุหรี่แห้ง

แต่ 2 คำ Single กับ Malt มีความหมายมากกว่านั้น โดย “Single” หมายความว่าทุกหยาดหยดของมอลต์ในขวด มาจากโรงกลั่นเดียว (Single distillery) เท่านั้น แต่ถ้าผสมกันหลายโรงกลั่นจะเรียกว่า Blended malt,Vatted malt หรือ Pure malt

“Malt” หมายความว่าวิสกี้นั้นต้องทำจากมอลต์ (Malted) ของธัญพืชล้วน ๆ โดยธัญพืชในโลกนี้ใช่ว่าจะสามารถทำมอลต์ได้ ที่ทำได้ดีคือข้าวไรย์ (Rye) ข้าวสาลี (Wheat) และข้าวบาร์เลย์ (Barley) แต่ถ้าเป็น Single Malt Scotch Whisky ต้องเป็น Barley เท่านั้น

2. ความแตกต่างของ เหล้าซิงเกิลมอลต์ ในแต่ละเขตการผลิต

โดยทั่วไปแล้ว ซิงเกิลมอลต์ ในแต่ละเขตที่ๆมีการผลิตนั้น มักจะมีจุดเด่นที่ต่างกัน โดยแต่ละเขตนั้นจะมีรสชาติของ เหล้าซิงเกิลมอลต์ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มาจากเขตของการผลิตนั้นๆ อย่างชัดเจน ที่เหมือนกับ ไวน์ กาแฟ หรือ ช็อคโกแลต เป็นต้น เราเริ่มมาดูกันว่าในแต่ละเขตพื้นที่นั้นมีรสชาติอย่างไรบ้าง ซึ่งสามารถแบ่งเขตการผลิตได้ 4 เขต ดังนี้

• • เขต Lowland เป็นเขตที่มีโรงกลั่นที่เหลือน้อยที่สุดก็ว่าได้ แต่เป็น Single Malt ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นของหญ้าเขียว ชินนาม่อน และ Honeysuckle ซิงเกิลมอลต์ที่ผลิตเขตนี้ เช่น Glenkinchie เป็นต้น
  • เขต Highland Highland เป็นดินแดนใหญ่ทำให้มีโรงกลั่นกระจายอยู่ทั่วไป เอกลักษณ์เฉพาะในเขตนี้คือมีกลิ่นดอกไม้และเครื่องเทศที่ชัดเจนขึ้น ได้ทั้งรสน้ำผึ้ง ไม้และเผ็ดหน่อยๆ พอดื่มแล้วรู้สึกสมูท ซิงเกิลมอลต์ที่ผลิตเขตนี้ เช่น Dalwhinnie เป็นต้น
  • เขต Speysid ถือเป็นเขตทองคำของโรงกลั่น ซึ่งจะมีเอกลักษณ์เรื่องความหอม กลมกล่อมทั้งกลิ่นและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ซิงเกิลมอลต์ที่ผลิตเขตนี้ เช่น Singleton เป็นต้น
  • เขต Isle of Skye ซิงเกิ้ลมอลต์ในเขตนี้จะถูกสร้างสรรค์โดยทะล โดยโรงกลั่นจะตั้งอยู่ริมทะเลและมีการบ่มนานสิบปีด้วยคลื่น สาหร่ายและน้ำทะเล แน่นอนรสชาติที่ได้จะมีกลิ่นของเกลือ ซิงเกิลมอลต์ที่ผลิตเขตนี้ เช่น Talisker เป็นต้น

3. แนะนำเคล็ดลับ 7 ขั้นตอนสัมผัสสุนทรียะแห่งซิงเกิ้ลมอลต์

ปกติทั่วไปแล้ว น้ำดื่มแต่ละชนิดจะมีเสน่ห์อยู่ในตัว แต่เราเป็นผู้กำหนดว่าสามารถดึงเสน่ห์ของน้ำดื่มนั้น ออกมาได้เหรือเปล่า เรามาเรียนรู้วิธีการดื่มซิงเกิ้ลมอลต์ให้ถูกวิธี เพื่อที่จะได้สัมผัสสุนทรียะแห่งซิงเกิ้ล มอลต์

ขั้นตอนที่ 1 แก้วคือขาดไม่ได้ การเลือกรูปทรงของแก้วก็มีผลกับการได้สัมผัสกลิ่นให้ดียิ่งขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยเสริมที่อยู่ในลำดับที่สำคัญอีกด้วย

ขั้นตอนที่ 2 อรรถรสที่มาพร้อมกลิ่น แนะนำให้รินซิงเกิ้ลมอลต์ ในปริมาณเล็กน้อยเพียง 1-2 ออนซ์เท่านั้น แล้วค่อยๆ ขยับแก้วเข้าใกล้ เพื่อดมกลิ่นความหอมที่อบอวลขึ้นมาจากแก้ว

ขั้นตอนที่ 3 รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ได้สัมผัสกับรสชาตี่แท้จริง ควรจิบน้อยๆแล้วค่อยๆ กลืนให้อากาศผ่านปากและจมูกอย่างช้าๆ เพียงแค่นี้คุณได้สัมผัสรสชาติอย่างแน่นอน

ขั้นตอนที่ 4 น้ำแร่ช่วยเพิ่มอรรถรส เติมน้ำแร่คุณภาพดีเพียงเล็กน้อย แล้วเขย่าเบาๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน จะช่วยผลักกลิ่นหอมของอโรมาและรสชาติอันนุ่มนวลให้ออกมามากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 5 วอร์มซิงเกิ้ล มอลต์ หลายคนนิยมเพิ่มอุณหภูมิโดยใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างโอบแก้วเอาไว้สักครู่ เพื่อให้ไออุ่นจากฝ่ามือช่วยขับกลิ่นหอมของซิงเกิ้ล มอลต์ วิสกี้ออกมามากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 6 ต่างเวลา ต่างรสชาติ การดมและจิบในระยะเวลาที่ต่างกัน ทำให้เราได้รับรสสัมผัสและสังเกต ถึงความสุนทรีย์ที่แตกต่าง

ขั้นตอนที่ 7 การดื่มคู่กัน การดื่มซิงเกิ้ลมอลต์คู่กับเครื่องดื่มอื่นๆ ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อให้คุณได้สัมผัสสุนทรีย์อย่างแท้จริง